วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

กล้วยไข่กำแพงเพชร GI ที่ยั่งยืน?

กล้วยไข่กำแพงเพชร ประกาศขึ้นทะเบียนเป็น สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications หรือ GI) เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่ง ซึ่งจะเกิดขึ้นจากความเชื่อมโยง (Links) ระหว่างปัจจัยสำคัญสองประการ คือ ธรรมชาติ และ ชุมชน ที่ได้อาศัยลักษณะเฉพาะที่มีอยู่ในแหล่งภูมิศาสตร์ตามธรรมชาติ มาใช้ประโยชน์ในการผลิตของตนทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณลักษณะพิเศษที่มาจากพื้นที่ดังกล่าว 

สำหรับการขึ้นทะเบียนGI กล้วยไข่กำแพงเพชร ทั้งนี้ มีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ เป็นที่ปรึกษากรมทรัพย์สินทางปัญญา และ เป็นผู้ควบคุมคุณภาพภายในและมาตรฐานการผลิต ด้วยกระบวนการเกษตรปลอดภัย เน้นการใช้สารชีวภัณฑ์ และการให้ธาตุอาหารพืชที่เหมาะสมและปลอดภัยต่อการผลิตสินค้าคุณภาพ

ชมรมเกษตรวิถีธรรมชาติ และ บริษัทเอกชน หลายแห่ง เข้ามาสนับสนุน กลุ่มกล้วยไข่ของ ผู้ผลิตกล้วยไข่GI ที่สนใจเพาะปลูกแบบไม่ใชัสารเคมี เพื่อให้เป็นกัาวแรก ของเกษตรอินทรีย์แบบชุมชนมีส่วนร่วม (PGS)

หมายเหตุ
Q: จากGI จะให้ยั่งยืน ทำอย่างไร
A:การรักษา แหล่งภูมิศาสตร์ตามธรรมชาติ ให้ยั่งยืน คือ การทำเกษตรกรรมที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม สร้างเกษตรกรรมยั่งยืนให้ลูกหลาน เหมือนที่บรรพชน ได้สร้างไว้ให้ประเทศเรา เป็นดินแดน ในน้ำมีปลาในนามีข้าว

เราทำตามกำลัง และ ความสมัครใจ เน้น แฮปปี้ๆ ครับ

ตอนต่อไป
ดินภูเขาไฟ คือ ภูมิอัตลักษณ์ ของ บุรีรัมย์
Volcanic soil, Geographical Signature of Buriram

สานิตย์ จิตต์นุพงศ์

วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

กำเนิดข้าวหอมมะลิไทย

คุณลุง สุนทร สีหะเนิน ชายผู้ทำให้ข้าวหอมของชุมชนชาวนาเล็กๆ ต.แหลมประดู่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา กลายเป็นที่รู้จักทั่วโลก เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2559 อ่านตำนานข้าวหอมมะลิและเรื่องราวของ คุณลุง สุนทร สีหะเนิน ซึ่งนำมาจากบทหนึ่งในหนังสือ “หอมกลิ่นข้าวมะลิหอม : เรื่องราวและการต่อสู้เพื่อรักษาข้าวขาวดอกมะลิ” เขียนโดย วิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ และ นิรมล ยุวนบุณย์ พิมพ์เผยแพร่เมื่อปี 2545 จัดพิมพ์โดย องค์กรความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาไทย (BIOTHAI) และมูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน (ประเทศไทย) ดังความข้างล่าง... ตำนานข้าวหอมมะลิ เมล็ดข้าวทุกเมล็ด และพันธุ์ข้าวทุกสายพันธุ์ล้วนมีตำนานซ่อนอยู่ เรื่องราวของข้าวหอมมะลิก็เช่นกันประวัติและความเป็นมาของสายพันธุ์ข้าวนี้ได้รับการบันทึกไว้โดยเอกสารของทางราชการ และถูกเก็บไว้ในความทรงจำของผู้คนจำนวนหนึ่ง หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกาได้ให้ความช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลก โดยภูมิภาคเอเชียอาคเณย์เป็นเป้าหมายสำคัญของสหรัฐทั้งนี้ในด้านหนึ่งเพื่อสร้างพันธมิตรของสหรัฐในการต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ และในอีกด้านหนึ่งเพื่อขยายบทบาทในทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเองเพื่อใช้ประเทศเหล่านี้เป็นฐานสำหรับวัตถุดิบและเป็นตลาดสำหรับสหรัฐอเมริกาไปพร้อมๆกันด้วย สหรัฐอเมริกาจึงได้ส่งทั้งความช่วยเหลือทางวิชาการและเงินทุนมายังภูมิภาคเอเชียอาคเณย์ ในกรณีประเทศไทยนั้น รัฐบาลไทยและสหรัฐได้ตกลงลงนามในข้อตกลงที่เรียกว่า "ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลอเมริกา" ทั้งนี้ องค์การบริหารความร่วมมือระหว่างประเทศ ณ กรุงวอชิงตันได้ส่ง ดร.อาร์. แอล. เพนดิลตัน (Robert L. Penderton) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องยีนในประเทศเขตร้อนจากมหาวิทยาลัย จอร์นฮอบกินส์ พร้อมด้วย ดร. เอช. เอช. เลิฟ (Dr. H. H. Love) ผู้เชี่ยวชาญการปรับปรุงพันธุ์พืชจากมหาวิทยาลัยคอร์แนล มาช่วยเหลือไทยในการบำรุงพันธุ์ข้าว และจัดตั้งกองการข้าว เมื่อปี 2493 (ก่อนหน้ามีการตั้งสถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ 10 ปีเต็ม) "โดยขั้นแรกได้เรียกพนักงานจากท้องถิ่นต่างๆ เข้ารับการฝึกอบรมเรื่องการบำรุงพันธุ์ข้าว เรื่องดินและเรื่องปุ๋ย แล้วให้กลับออกไปปฏิบัติการเรื่องการทดลองพันธุ์ข้าวและทดลองปุ๋ยยังท้องถิ่นที่ประจำอยู่ พนักงานที่ได้รับการอบรมรุ่นแรกนี้ได้แสดงความสามารถทันที่ที่กลับไปถึงท้องถิ่น พนักงาน 37 คน จาก 35 อำเภอ ได้รวบรวมรวงข้าวจากชาวนา 938 แห่งทั่วประเทศ เป็นจำนวนกว่า 120,000 รวงหรือสายพันธุ์ ซึ่งนับว่ามากเป็นประวัติการณ์ เพื่อส่งมาทำการคัดเลือกพันธุ์ตามสถานีทดลองต่างๆ ในปีต่อไป" ในครั้งนั้น "ข้าวขาวดอกมะลิ" หรือที่คนไทยเรียกกันสั้นๆติดปากในเวลาต่อมาว่า "ข้าวหอมมะลิ" ถูกรวบรวมมา 199 รวง โดยมีการบันทึกไว้ว่า ข้าวพันธุ์นี้ถูกนำมาจากบ้านแหลมประดู่ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ไปปลูกที่บางคล้าเมื่อปี 2488 ถิ่นกำเนิดของข้าวหอมมะลิจึงมีที่มาจากพื้นที่ในภาคตะวันออกของประเทศไทยบริเวณรอยต่อระหว่างจังหวัดชลบุรีและฉะเชิงเทรา สุนทร สีหะเนิน เมื่อปี 1943 สุนทร สีหะเนิน นักการเกษตรหนุ่มซึ่งมีพื้นเพจากปักษ์ใต้วัย 20 ปีต้นๆ คือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ไปเก็บพันธุ์ข้าวบริเวณจังหวัดชลบุรี และฉะเชิงเทรา วันแรกที่ได้รับมอบหมาย สุนทรแวะที่ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทราเป็นที่แรก มีบางคนบอกว่า อำเภอนี้มีของดีสามสิ่งคือ "ข้าวหอม มะม่วงดี และสับปะรดหวาน" ชาวบางคล้าภูมิใจกับข้าวหอมของตนมาก เขายังจำคำบอกเล่านั้นได้อย่างแจ่มชัดว่า ความหอมของมันนั้นอาจทำให้คนที่เดินผ่านบ้านถึงกับน้ำลายหก เพราะทนความเย้ายวนของกลิ่นหอมจากข้าวที่หุงอยู่ในครัวจนไม่อาจควบคุมตนเองได้เลย เขาเล่าให้ฟังว่า "การเก็บเมล็ดพันธุ์ให้ได้ตามวิธีที่ได้รับมอบหมายนั้นเป็นงานยากลำบากมากในสมัยนั้น การคมนาคมขนส่งก็ไม่สะดวก การขนย้ายพันธุ์ข้าวที่เก็บได้ต้องใช้เพียงรถจักรยานคันเดียวเท่านั้น " ตามคำแนะนำของนักวิชาการข้าวจากอเมริกัน พันธุ์ข้าวพื้นเมืองที่จัดเก็บต้องปลูกในบริเวณเวณกว้างและได้รับความนิยมพอสมควรในแต่ละท้องถิ่น โดยแต่ละพันธุ์ต้องมีการปลูกอย่างต่ำในพื้นที่ 15 ไร่ ทั้งนี้นักการเกษตรแต่ละคนต้องเก็บพันธุ์ข้าวให้ได้ 200 รวง แต่ละรวงนั้นต้องมาจากต้นข้าวที่ปลูกในพื้นที่ทั่วๆไป ต้องไม่เก็บมาจากต้นข้าวที่ปลูกใกล้ๆกองปุ๋ยหมัก หรือมูลสัตว์ หรือปลูกริมๆแปลง เพราะอาจทำให้การอ่านลักษณะของพันธุ์ผิดพลาดได้เนื่องจากต้นข้าวงอกงามดีกว่าปกติเพราะได้รับธาตุอาหารมากกว่าต้นข้าวต้นอื่นๆที่อยู่ในแปลง สุนทรบอกว่าในวันแรกที่เขาเริ่มงาน เขากลับได้พบกับพันธุ์ข้าวซึ่งไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่ถูกกำหนดไว้เลยแม้แต่ข้อเดียว "รวงข้าวทุกรวงที่ผมเก็บได้ มาจากผืนนาแปลงเล็กกว่า 15 ไร่ บางรวงได้มาจากนาแปลงเล็กมากๆแต่ลักษณะรวงกลับสวยงามสมบูรณ์ ทำไมผมจะไม่เก็บพันธุ์เหล่านั้นไว้เล่า ในเมื่อพันธุ์ข้าวพันธุ์นี้หอมและรสชาติดี เกณฑ์ที่กำหนดไว้ไม่มีความหมายใดๆเมื่อคุณคิดคิดถึงศักยภาพของพันธุ์ข้าวนี้ที่จะพัฒนาต่อไปในภายหน้า" อย่างไรก็ตามข้าวขาวดอกมะลิรวงหนึ่งหล่นหายไประหว่างเคลื่อนย้าย ตัวอย่างข้าวขาวดอกมะลิที่เก็บได้จึงมีเพียง 199 รวงเท่านั้น ข้าวแต่ละรวงต้องนำเอามาปลูกเป็นแถวๆโดยสลับกับ "พันธุ์ข้าวนางมน" ซึ่งเป็นข้าวพันธุ์ดีที่รู้จักกันในขณะนั้น ปรากฏว่าข้าวขาวดอกมะลิแถวที่ 105 เป็นพันธุ์ข้าวที่มีลักษณะดีที่สุดและให้ผลผลิตดีที่สุด นี่คือที่มาของ "ขาวดอกมะลิ 105" พันธุ์ข้าวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกปัจจุบัน หากไม่มีชายคนหนึ่งแหกกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โลกคงไม่รู้จัก "จัสมินไรซ์" เหมือนดังที่เป็นอยู่ในขณะนี้ หากไม่มีใครเก็บพันธุ์ข้าวนี้ไปเผยแพร่ พันธุ์ข้าวนี้อาจปลูกและเป็นที่นิยมกันในหมู่ชุมชนเล็กๆหรือบางทีอาจจะสูญพันธุ์ไปแล้วก็ได้ ที่มาข้อมูล Biothai

วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ทุนจากป่า ทิวเขาถนนธงชัย

ทิวเขาถนนธงชัย เป็นแนวทิวเขาทางด้านตะวันตกของภาคเหนือ เริ่มจากจุดที่บรรจบกับทิวเขาแดนลาว ทอดตัวเป็นแนวยาวลงมาทางตอนล่างของภาค เหนือ ได้แก่ ทิวเขาถนนธงชัยตะวันตก  ตั้งแต่อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน พาดผ่าน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จนถึง  อุทยานแห่งชาติ คลองวังเจ้า และ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดกำแพงเพชร

พื้นที่เกษตรกรรม เชิงเขา และที่ราบริมขอบป่า จึงมีระบบนิเวศ มีดินที่อุดมสมบูรณ์ เป็นเกษตรวิถีธรรมชาติ เพาะปลูกแบบไร่นาสวนผสม

เป็นภูมิอัตลักษณ์ของชุมชน ที่มีคุณค่ายิ่ง เป็นทุนของชุมชนที่ต้องหวงแหนไว้ให้ลูกหลาน ด้วยการไม่ทำลายห่วงโซ่ทางนิเวศ

สำหรับแฮปปี้อังเคิล เราสนับสนุนผลผลิตจากเกษตรวิถีธรรมชาติ และนำมาเป็นวัตถุดิบ ผลิตเป็น อโรม่า สกินแคร์ ครับ

Happy Skin;by Happy Uncle
Inspired with organic, be natural beauty

Tag :
#Farm2Face
#Seed2Serum
#Organic #Rice #Herb #Banana #Thai #Farm #Wisdom   #Nourishment #Natural #Essential
#NoSLS #NoSLES #ParabenFree #ParaffinOilFree

วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2561

เราเป็นหนี้่ธรรมชาติ

ความต้องการของมนุษย์มากเกินกว่าที่ธรรมชาติจะสร้าง ทดแทนได้
เพราะเราตัดต้นไม้ได้เร็วกว่าที่ต้นไม้จะโตเต็มที่ จับปลาได้ มากกว่าที่มหาสมุทรจะสามารถเติมเต็มให้เราใหม่ได้
หรือปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สู่บรรยากาศมากกว่าที่ผืนป่าและมหาสมุทรจะดูดซับได้

ผลที่ตามมาคือทรัพยากรที่มีสะสมอยู่ลดน้อยลงและมีการสะสมของของเสียเร็วกว่าที่ความสามารถที่จะถูกดูดซับหรือรีไซเคิลได้

และนี่คือความท้าทายที่มากขึ้นส󰄞ำหรับมนุษย์ที่จะรักษาความสามารถที่เพิ่มขึ้นในการรองรับเชิงนิเวศของโลกในขณะที่ภาวะดินเสื่อมสภาพ น้ำจืดขาดแคลน สูงขึ้น

รอยเท้านิเวศ
ตัวชี้วัดเพิ่อ ธรรมชาติที่ยั่งยืน (อาหาร น้ำ และพลังงาน)
หลักการ คือ การใช้ทรัพยากรผ่านทางกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์จะก่อให้เกิดรอยเท้า การมีรอยเท้าที่มากบ่งบอกได้ถึงการใช้ทรัพยากรที่มากเกินขอบเขตที่ทรัพยากรนั้นๆจะรองรับได้ ซึ่งอาจบ่งชี้ได้ถึงการเพิ่มของรอยเท้าก่อให้เกิดความไม่ยั่งยืนต่อทรัพยากรดังกล่าว

การลดรอยเท้านิเวศ
คือ การใช้ที่ดิน และ การจัดการทรัพยากร ที่เหมาะสม สู่ ทรัพยากรยั่งยืน จึงต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภค และ การผลิต สู่ เกษตรอินทรีย์ เกษตรเชิงนิเวศ การบริโภคอาหารคลีน เพื่อรักษาสุขภาพ และยังเป็นการลดรอยเท้านิเวศด้วย

เศรษฐกิจชุมชน

เศรษฐกิจชุมชน หมายถึง กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆไม่ว่าจะเป็นการผลิต การบริโภค  การจำหน่าย ที่คนในท้องถิ่นชุมชนได้มีส่วนร่วมคิดร่วมทำร่วมรับประโยชน์ของประชาชน และร่วมกันเป็นเจ้าของ

จากศักยภาพของชุมชน ภูมิปัญญา ท้องถิ่น และ  ทุนชุมชน ทุนที่ไม่ใช่เงินทุน อาทิวัฒนธรรม ประเพณี สภาพดิน น้ำ ภูมิประเทศ

ตามหลัก เศรษฐศาสตร์
การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ต้องมีพลวัต และสามารถที่จะอยู่รอดได้ด้วยตัวเอง  พัฒนาร่วมกับพัฒนาการของระบบทุนนิยม ซึ่งเป็นเรื่องยากหากไม่มีการรวมกลุ่มของห่วงโซ่อุปทาน ชุมชน

เมื่อปัจจัยที่สำคัญต่อการอยู่รอดของ เศรษฐกิจชุมชน  คือ ความสามารถในกายืนได้ในทาง เศรษฐกิจด้วยตนเอง ดังนั้น หน่วยธุรกิจในห่วงโซ่อุปทาน จึงต้องเป็นผู้ประกอบการชุมชน ทั้งระบบ หรือ มากที่สุด ตั้งแต่
1 ผู้เพาะปลูก
2 ผู้คัดแยก/ผู้รวบรวม/ส่งมอบ
3 ผู้แปรรูป
4 ผู้พัฒนา/แบรนด์
5 ผู้ขนส่งฯ
6 ผู้ค้าส่ง
7 ผู้กระจายสินค้า
และ8 ผู้ค้าปลีก
ทั้ง8 หน่วยธุรกิจ ต้องเป็นเครือข่ายกับชุมชน ้ชุมชนจึงจะยืนอยู่ในเศรษฐกิจระบบทุนได้

มีต่อ...

บันทึกไว้โดย
สานิตย์ จิตต์นุพงศ์

แนะนำตัว


#HappyUncle #FolkFarm
จากประสบการณ์ที่หลากหลายของแฮปปี้อังเคิล เราค้นพบว่า
ภูมิปัญญาท้องถิ่น และ ภูมิอัตลักษณ์ เป็นเรื่องอัศจรรย์ใจ จึงเกิดเป็น passion ของเรา สู่ ผลิตภัณฑ์
จาก วิถีพื้นบ้าน ที่เพาะปลูกแบบรักษาสิ่งแวดล้อม ต่อเนื่องเชื่อมโยงกับ ชุมชนแปรรูป ซึ่งเราเรียกรวมกันว่า "เกษตรพื้นบ้าน" (Folk Farm )

#HappyUncle นำผลผลิตจาก #FolkFarm มาเป็นวัตถุดิบตั้งต้น รังสรรค์สู่ 3 สายผลิตภัณฑ์ ได้แก่

กลุ่ม ขัาว ผลไม้สด
"อินทรีย์วิถีชุมชน"ืจากวิถืพ่อ เกษตรภูมิอัตลักษณ์ ได้แก่ ข้าว กล้วย มะม่วง มะพร้าว #FatherFootprintFarm

กลุ่ม ขนม
"อร่อยอย่างไทย" ตำรับโบราณ
#FarmToFork

กลุ่ม อโรม่า สกินแคร์
"อ่อนเยาว์จากไพร" ใช้ผลผลิตเกษตรเป็นวัตถุดิบตั้งต้น
#FromFarmToFace

ชื่อองค์กร
ชมรมเกษตรวิถีธรรมชาติ
ชื่อแบรนด์
Happy Uncle 
ผู้ก่อตั้ง
นาย สานิตย์ จิตต์นุพงศ์

ที่อยู่
53 หมู่10 บ้านวังชะโอน
ตำบล วังชะโอน อำเภอ บึงสามัคคี กำแพงเพชร
กำแพงเพชร 62210

ติดต่อเรา
Tel (66) 804501888
Line ID @happyuncleshop
Facebook:
HAPPY UNCLE FOLK FARM
IG: happyuncle_folkfarm

https://happyunclefolkfarm.com

วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ทุนชุมชน

ทุน ที่ไม่ใช่ เงินทุน"ทุนชุมชน" 


"ทุนชุมชน" คือ สิ่งที่มีมูลค่ามากกว่า "เงินทูน" ได้แก่
ทุน จากธรรมชาติ ดิน และ น้ำ
ทุน จากภูมิปัญญาท้องถิ่น
ทุน จากการระดมสมอง
ทุน จากเครือข่ายระหว่างชุมชน 

แฮปปี้อังเคิล ระดม สินค้าชุมชนที่มี "ทุนชุมชน" ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเรา อร่อยอย่างแตกต่างด้วยภูมิอัตลักษณ์ของพื้นที่

ได้แก่
ข้าว
กล้วย
น้ำผลไม้
ขนมพื้นบ้าน

บันทึกโดย
สานิตย์ จิตต์นุพงศ์



เกษตรอัตลักษณ์

รายงาน ผลผลิต เกษตรภูมิอัตลักษณ์ ของ ลุ่มน้ำแม่ปิง กลุ่มเกษตรวิถีธรรมชาติ และ เกษตรกรรมระยะปรับเปลี่ยน (เพื่อเข้าสู่มาตรฐานเกษตรอินทรีย์PGS)


1
กล้วยไข่ กำแพงเพชร
จาก แฮปปี้อังเคิล
Kluai Khai
Kamphaeng Phet
GI Banana
ข้อแตกต่าง กล้วยไข่กำแพงเพชร กับ กล้วยไข่ทั่วไป
1 ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
1.1 ผลขนาดเล็ก รูปร่างผลทรงกระบอกค่อนข้างกลม ไม่มีเหลี่ยม กว้างประมาณ 2-3 ซม. ยาว 8-10 ซม.
1 2 ผลในหวีไม่เรียงเสมอกัน แต่จะมีลูกระเกะระกะ
1 3เปลือกบางกว่ากล้วยไข่ทั่วไป
1.4 เมื่อใกล้สุกจะเห็นกระ จุดดำ เมื่อสุกกระจะเห็นชัด
2 ลักษณะทางรสชาติ
2.1 เนื้อแน่น รสชาติหวาน เคี้ยวนุ่มนวลและมีมวล
2.2 จุดกระ คือ หวานมาก ไม่ใช่ เชื้อรา หรือเนื้อเน่า

ฤดูกาลผลผลิตตาม ธรรมชาติ
เริ่มต้น เดือน สิงหาคม
ข่วงชุก เดือน กันยายน
ช่วงปลาย เดือน มกราคม


2
เกษตรนิเวศน์ ชุมชนต้นน้ำ คลองวังเจ้า
เกษตรแบบ ไร่นาสวนผสม เชิงนิเวศ บนพื้นที่ติดเขตวนอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า อำเภอคลองลาน กำแพงเพชร ได้แก่
ผลไม้ และ กล้วยไข่ ปลูกเพื่อบริโภค เหลือแล้วจึงขาย

3
น้ำมันรำ ข้าวหอมมะลิ
เกษตรนิเวศน์ ชุมชนต้นน้ำ ป่าแม่วงษ์
เกษตรแบบผสมผสาน เชิงนิเวศ บนพื้นที่ติดวนอุทยานแห่งชาติฯแม่วงษ์ จังหวัดนครสวรรค์
ข้าว สมุนไพร ปลูกเพื่อบริโภค เหลือแล้วจึงขาย

4
ข้าวไรซ์เบอร์รี่
เมืองแม่สอด

จาก กลุ่ม สามัคคีแม่สอด
ปลูกบนพื้นที่ อำเภอแม่สอด สูงกว่าระดับน้ำทะเล700 เมตร บนนิเวศน์ ภูเขาถนนธงชัย เป็นข้าวปลอดสารเคมีื ระยะปรับเปลี่ยน (เพื่อเข้าสู่มาตรฐานเกษตรอินทรีย์PGS)

ผู้รายงาน
สานิตย์ จิิิ์นุพงศ์ตตต